จากกรณีเรื่องราวเดือดบนท้องถนน เมื่อเก๋งคู่หนึ่งไล่ขับกันมาและบีบแตรดังลั่นถนน ก่อนที่คนในเก๋งคันที่บีบแตรลงมาจากรถ โดยที่สวมชุดคล้ายข้าราชการ วิ่งเข้ารถเก๋งคันหน้า จากนั้นกลับมาที่รถและพยายามขับหนีออกไป โดยมีสาวคนขับเก๋งที่โดนถีบ วิ่งมาที่รถและเรียกให้ลงมาคุยกันพร้อมกับทุบไปที่รถ
![](https://www.siamtopic.com/pic_1/3/190530mij15.png)
จากนั้น ชายอีกคนที่อยู่ในรถที่ถูกถีบได้ลงมาจากรถด้านคนนั่ง และเดินตรงเข้าไปที่เก๋ง ซึ่งไม่สามารถไปต่อได้เนื่องจากรถติด แต่คนขับวีออสก็ถอยหลัง เดินหน้าโดยไม่ยอมตกเป็นเป้า แต่ก็โดนทุบจนกระจกแตก จากนั้น มีการเปิดประตูออก และพยายามเข้าไปทำชายที่อยู่ในรถ จากทั้งผู้หญิงและผู้ชายคู่กรณี ซึ่งยังไม่ทราบว่า สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เกิดจากอะไรกันแน่
![](https://www.siamtopic.com/pic_1/3/1905306karq.jpg)
โดยพบว่ามีการเผยแพร่คลิปอีกมุมจากกล้องหน้ารถ ซึ่งพบว่า รถเก๋งของผู้ที่ใส่ชุดสีกากีได้ ไล่ตามจี้ท้ายรถ โดยทั้งสองคันขับด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะเกิดเหตุลงมาถีบรถ และกลายเป็นการทะเลาะวิวาทังกล่าว เบื้องต้น อยู่ระหว่างการสอบถามถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ภายหลังจากนายทหาร มาถึง สน.ศาลาแดง เปลี่ยนเป็นชุดลำลองและวิ่งหนีสื่อมวลชนพร้อมกับไม่ยอมตอบคำถามใดใด โดยขึ้นไปรอผู้เสียหายบนชั้น2 ภายในห้องผู้กำกับสถานีตำรวจศาลาแดง
![](https://www.siamtopic.com/pic_1/3/190531u2qjs.jpg)
ในเวลาต่อมานางสาวสุนาวรี อินดิบ วัย 32 ปี อาชีพช่างเสริมสวย หญิงสาวคู่กรณี ได้เดินทางมาพร้อมกับรถยนต์ ฮอนด้า รุ่น แจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ก็5331 กรุงเทพมหานคร เข้าพบตำรวจสน.ศาลาแดง พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ขับรถปาดหน้ากับคู่กรณีตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ชายขณะเกิดเหตุชายที่เป็นทหาร ขับจี้ท้ายรถ และบีบแตรตลอดทาง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ทั้งคู่ได้เข้าไปสอบปากคำ ก็มี นายทหาร ระดับสูงยศนายพล ซึ่งเป็นพ่อของนายทหารคนดังกล่าว พร้อมกับบอกว่า ลูกชายอาจจะเป็นผู้ถูกกระทำก่อน ซึ่งตามปกติแล้วธรรมชาติลูกชายจะเป็นคนอีกแบบหนึ่ง แต่ถ้าใครมาทำอะไรที่ไม่ถูกต้องเค้าก็จะไม่ยอม เพราะเขาเป็นคนยึดความถูกต้องเป็นที่ตั้ง ยกตัวอย่าง หากไปขึ้นเครื่องบิน ลูกก็จะต้องต่อแถวตลอด
![](https://www.siamtopic.com/pic_1/3/19053095izx.jpg)
นอกจากนี้พ่อยังบอกอีกด้วยว่า ลูกชายได้รับประกาศนียบัตรจากพระชั้นผู้ใหญ่ระดับประเทศ เป็นคนธรรมมะ ธรรมโม ซึ่งที่ผ่านมาจะอยู่ในโอวาสตลอด ส่วนในเรื่องของคดีความ เบื้องต้น พ่อก็ไม่อยากเอาเรื่องค่าเสียหายใดๆ แต่ลูกชายไม่ยอม ซึ่งตนก็อยากให้อภัยซึ่งกันและกัน แต่เชื่อว่าที่มีปัญหากันอาจเคยมีเรื่องกันตั้งแต่อดีตชาติ